กลูโคส (Glucose) คือโมโนแซ็กคาไรด์ (Monosaccharide) ที่พบมากที่สุดในธรรมชาติ ในพืช เกิดจากการสังเคราะห์ด้วยแสง พืชบางชนิดเก็บไว้ในสายโซ่ที่เชื่อมโยงกัน โซ่เหล่านี้เรียกว่าแป้ง (Starch)
ชื่อเรียก “กลูโคส (Glucose)” มาจากคำภาษากรีกที่แปลว่า “ความหวาน” เป็นน้ำตาลชนิดหนึ่งซึ่งด้รับจากอาหารที่รัปประทาน และร่างกายใช้เป็นพลังงานผ่านกระแสเลือดไปเลี้ยงยังเซลล์เรียกว่าน้ำตาลในเลือด
อาหารที่มีแป้งทั่วไปได้แก่ข้าวโพด มันฝรั่ง ข้าว และข้าวสาลี แป้งถูกแยกในเชิงพาณิชย์จากแหล่งอาหารทั้งหมดเหล่านี้เพื่อทำเดกซ์โทรส กลูโครส มอลโทเดกซ์ทริน โพลิออล และน้ำเชื่อมข้าวโพดซึ่งมีฟรุกโตสสูงเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอาหาร เครื่องดื่ม น้ำสลัด และซอสบางชนิด
Glucose ยังพบได้ตามธรรมชาติในอาหารบางชนิด แหล่งอาหารที่มีปริมาณเข้มข้นที่สุดคือน้ำผึ้ง ตามด้วยผลไม้แห้งเช่น อินทผาลัม แอปริคอต ลูกเกด แครนเบอร์รี่ ลูกพรุน
อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่เคลื่อนย้าย Glucose จากเลือดไปยังเซลล์เพื่อเป็นพลังงานและการจัดเก็บ ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ไม่ว่าพวกเขาจะมีอินซูลินไม่เพียงพอที่จะเคลื่อนย้ายหรือเซลล์ของพวกเขาไม่ตอบสนองต่ออินซูลินเท่าที่ควร น้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานสามารถทำลายไต ดวงตา และอวัยวะอื่นๆ
น้ำตาลทรายเปรียบเทียบกับ Glucose
น้ำตาลมีหลายประเภท แต่ชนิดที่ร่างกายใช้มากที่สุดคือน้ำตาลกลูโคส น้ำตาลอื่นๆ เช่น ฟรุกโตสจากผลไม้หรือแลคโตสจากนม จะถูกเปลี่ยนเป็นและใช้เป็นพลังงาน อีกทั้งร่างกายของเรายังสลายแป้งซึ่งเป็นน้ำตาลที่จับตัวเป็น Glucose
ข้อมูลเบื้องต้นตารางกลูโครสในอาหาร
| อาหาร | ขนาดให้บริการ | ปริมาณกลูโคส |
|---|---|---|
| น้ำองุ่น | 1 ถ้วยตวง | 17.2 g |
| น้ำอัดลม | กระป๋อง 12 ออนซ์ | 15.2 g |
| ขนุน | 1 ถ้วยตวง | 15.6 g |
| แครนเบอร์รี่อบแห้ง | 1/4 ถ้วยตวง | 11.9 g |
| เชอร์รี่ | 1 ถ้วยตวง | 10.1 g |
| ชานม | 1 ถ้วยตวง | 9.7 g |
| น้ำผึ้ง | 1 ช้อนโต๊ะ | 7.5 g |
| มะเขือเทศในน้ำซุปข้น | 1 ถ้วยตวง | 6.1 g |
| ข้าวโพดหวาน | 1 ถ้วยตวง | 5 g |
| ซอสบาร์บีคิว | 1 ช้อนโต๊ะ | 2.8 g |
การวัดปริมาณน้ำตาล (กลูโคสและซูโครส)
การทดสอบและตรวจสอบปริมาณน้ำตาลในอุตสาหกรรมอาหารเป็นสิ่งสำคัญมาก ด้วยเครื่องวัดการหักเหของแสงนี้ คุณสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
เครื่องวัดรีแฟรกโตมิเตอร์ (Refractometer) จะวัดค่าดัชนีหักเหของแสงและแปลงดัชนีการหักเหของแสงของตัวอย่างอาหารเป็น % Glucose โดยน้ำหนัก การแปลงนี้อ้างอิงจากมาตรฐาน ICUMSA Methods Book (International Commission for Uniform Methods of Sugar Analysis)
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์ผลไม้ เครื่องดื่มชูกำลัง พุดดิ้ง นมถั่วเหลือง น้ำผลไม้ แยม แยมผิวส้ม น้ำผึ้ง ซุป เยลลี่ เต้าหู้ และเครื่องปรุงรส เป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายสำหรับวัดน้ำตาลในตัวอย่างอาหารในภาคสนามหรือในห้องปฏิบัติการ
วิดิโอแนะนำเครื่องวัดกลูโครสในอาหาร
สำหรับวัดปริมาณน้ำตาล Glucose เป็น % ของน้ำหนัก (%W/W) ออกแบบมาอย่างดีกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP65 เหมาะสำหรับการวิเคราะห์น้ำตาลกลูโคสในเครื่องดื่มให้พลังงาน พุดดิ้ง นมถั่วเหลือง
- ย่านวัด 0 to 85% (% w/w glucose)
- ความถูกต้อง (@25ºC) ±0.2%
- พร้อมใบรับรอง Certificate of Calibration
รู้จักค่าความหวานบริกซ์ (Brix)
นอกจากการวัดน้ำตาลกลูโครสแล้วยังมีการวัดค่าความหวานบริกซ์ ซึ่งเป็นการวัดซูโครสในสารละลาย บริกซ์ (สามารถเขียนย่อ °Bx หรือที่นิยมใช้กันคือ %Brix) บริกซ์แต่ละองศา (°1) เทียบเท่ากับความเข้มข้นของน้ำตาล 1% เมื่อวัดที่ 20°C
ค่าบริกซ์ของผลิตภัณฑ์ที่กำหนดสามารถรับได้โดยตรงโดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่าเครื่องวัดการหักเหของแสงหรือไฮโดรมิเตอร์
ตัวอย่างเช่นเมื่อใช้เครื่องวัดการหักเหของแสง 10°Bx จะเท่ากับน้ำตาล 10 กรัมในสารละลาย/ตัวอย่าง 100 กรัม ในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ ปริมาณน้ำตาลมักจะแสดงเป็นซูโครส
หากคุณต้องการรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริกซ์แนะนำให้อ่านบทความนี้ Brix คือ
สินค้าที่เกี่ยวขอ้ง
ร่างกายของเราสร้างกลูโคสได้หรือไม่
ร่างกายของเราต้องการกลูโคสในการทำงาน เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสมอง เนื่องจากอวัยวะนี้ใช้มากที่สุดประมาณ 60% ที่ร่างกายของเราใช้ แต่ Glucose ไม่จำเป็นต้องมาจากอาหารและเครื่องดื่มในทันทีเสมอไป
กลูโคสถูกสร้างขึ้นโดยร่างกายเพื่อให้แน่ใจว่าเรามีปริมาณที่จำเป็นอยู่เสมอ วิธีหนึ่งที่ทำได้คือการทำลายไกลโคเจนเพื่อเพิ่ม Glucose ที่มีอยู่ การสลายตัวของไกลโคเจนเกิดขึ้นระหว่างมื้ออาหารหรือในช่วงที่มีการออกกำลังกายอย่างหนัก
ร่างกายสามารถผลิตได้เองผ่านกระบวนการสร้างกลูโคสซึ่งเป็นกระบวนการที่ร่างกาย (ส่วนใหญ่เป็นตับ) โดยผลิตจากแหล่งที่ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรต Gluconeogenesis เกิดขึ้นเมื่อเก็บไกลโคเจนต่ำและการบริโภคที่ต่ำเกินไปหรือไม่มีเลยเช่นในช่วงที่อดอาหารหรือการขาดอาหารเป็นเวลานาน
