Moisture Meters (เครื่องวัดความชื้น) วัดเปอร์เซ็นต์ของน้ำในวัสดุที่เป็นของแข็ง ก๊าซ และของเหลว สามารถใช้เพื่อพิจารณาว่าวัสดุพร้อมใช้งานหรือไม่ เปียกหรือแห้งเกินไปหรือไม่ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากไม้และกระดาษมีความไวต่อความชื้นมาก อีกทั้งยังนิยมใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่นเพื่อควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในระหว่างการผลิตอาหาร สินค้าอุตสาหกรรม วัสดุก่อสร้าง ยาและอื่นๆ
ชนิดของเครื่องวัดความชื้น
ก่อนซื้อเครื่องวัดความชื้น จะต้องตรวจสอบสิ่งที่คุณต้องการวัดก่อน เป็น Humidity (ความชื้นในอากาศ) หรือ Moisture (ความชื้นของวัสดุ)
การวัดความชื้นในอากาศ
เครื่องวัดชนิดนี้ใช้สำหรับวัดปริมาณไอน้ำในสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีโครงสร้างและการออกแบบที่แตกต่างกันไปตามลักษณะการใช้งานมีทั้งแบบติดผนัง ตั้งโต๊ะและชนิดมือถือสำหรับการพกพา ซึ่งแสดงค่าที่วัดเป็น %RH
ปริมาณไอน้ำในอากาศเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการทางอุตสาหกรรมที่หลากหลาย หากสูงเกินไปอาจทำให้เกิดการกัดกร่อนและปัญหาอื่นๆ เช่นเชื้อราและส่งผลต่อระดับความสะดวกสบายและในทางกลับกัน หากชื้นต่ำเกินไปจะทำให้สิ่งต่างๆ แห้งและอาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้
การวัดความชื้นในวัสดุ
สำหรับการวัดปริมาณน้ำที่มีอยู่ในไม้ คอนกรีตและวัสดุอื่นๆ ผลลัพธ์จะถูกรายงานเป็นเปอร์เซ็นต์ บางรุ่นได้รับการตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าสำหรับวัสดุต่างๆ เช่นแผ่นใย ไม้อัดเป็นต้น
แบ่งได้ 2 ประเภทให้เลือกดังนี้
1.ชนิดมีโพรบปลายแหลม วัดความต้านทานไฟฟ้า (ความต้านทาน) หรือค่าการนำไฟฟ้าของวัสดุ เนื่องจากน้ำทำให้วัสดุนำไฟฟ้าได้ การเพิ่มปริมาณน้ำสัมพันธ์กับการนำไฟฟ้าที่สูงขึ้น
BeneTech รุ่น GM605 สำหรับวัดความชื้นของไม้ คอนกรีต ซีเมนต์ ย่านการวัด 2 ถึง 70% ด้วยความถูกต้อง ±1%
2.ชนิดที่ไม่มีโพรบ (แบบสัมผัส) ทำงานโดยคุณสมบัติของไดอิเล็กทริกของไม้ เครื่องวัดจะสร้างคลื่นไฟฟ้าความถี่ต่ำที่เคลื่อนที่ระหว่างแผ่นสองแผ่นที่วางอยู่ด้านตรงข้ามของไม้และวัดความจุไฟฟ้า เมื่อมีความชื้นมากขึ้นความจุก็จะสูงขึ้น เครื่องวัดจะให้ผลโดยตรงเป็น %
การวัดความชื้นในอาหาร
เครื่องวิเคราะห์ความชื้นทำการวิเคราะห์โดยใช้วิธี ‘การสูญเสียน้ำหนักจากการทำให้แห้ง‘ (LOD) ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปในการวิเคราะห์ความชื้น
ชั่งน้ำหนักตัวอย่างก่อนและหลังการให้ความร้อน ซึ่งทำได้โดยการบันทึกน้ำหนักอย่างต่อเนื่องในขณะที่ตัวอย่างถูกทำให้ร้อนและทำให้แห้งโดยใช้หลอดฮาโลเจนหรือหลอดอินฟราเรดเป็นต้น
การเลือกซื้อ Moisture meter
ก่อนที่จะเลือกเครื่องวัดจำเป็นต้องให้ความสำคัญของอุปกรณ์วัดความชื้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมสำหรับงานในอนาคต ซึ่งมีหลักเกณฑ์การเลือกซื้อดังต่อไปนี้
1.ความแม่นยำ (Accuracy)
ความแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ควรกล่าวถึงเมื่อเลือกอุปกรณ์ตรวจวัดความชื้น อุปกรณ์ที่ไม่แม่นยำไม่นั้นไร้ประโยชน์ นั่นคือเหตุผลที่เครื่องวัดควรให้ความแม่นยำภายใน 1% แต่อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงดังกล่าวมีราคาแพง สำหรับเครื่องวัดความชื้นทั่วไปราคาไม่แพงความแม่นยำปกติอาจอยู่ภายในช่วง ± 5%
เครื่องวัดจะแสดง Moisture เป็นเปอร์เซ็นต์ของปริมาณความชื้น (%MC) โดยทั่วไปอุปกรณ์จะถูกสอบเทียบสำหรับการใช้งานและมีช่วงการวัดตั้งแต่ 5% ถึง 40% การวัดปริมาณความชื้นของสารที่ไม่ใช่ไม้ (เช่นคอนกรีตและสมุนไพร) จะมีช่วงการวัดตั้งแต่ 0% ถึง 100%
ตัวอย่างเอกสารรับรองความแม่นยำ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
2.ทนทานและใช้งานง่าย (Durable and Easy to use)
ความทนทานของเครื่องวัดมีความสำคัญสำหรับผู้ใช้ที่ใช้เป็นประจำ เครื่องมือที่ดีควรมีประสิทธิภาพและความทนทานที่ยาวนานแก่ผู้ใช้
3.ช่วงการวัด (Measurement range)
ช่วงการวัดจะระบุด้วยเปอร์เซ็นต์ความชื้นต่ำสุดและสูงสุดที่เครื่องจะวัดได้ ยิ่งช่วงการวัดสูงเท่าใด อุปกรณ์ก็ยิ่งแม่นยำน้อยลง