เทอร์โมมิเตอร์ (Thermometer) โดยทั่วไปเป็นเครื่องมือวัดชนิดหนึ่งที่ใช้ในการตรวจวัดอุณหภูมิของวัตถุ อีกทั้งยังใช้ในการวัดอุณหภูมิห้อง เชื้อเพลิง และเป็นตัวบ่งชี้ความร้อนในเครื่องมือบางอย่างอีกด้วย
ชนิดของเทอร์โมมิเตอร์ (Type of thermometer)
มีเทอร์มอมิเตอร์หลายประเภทในตลาดปัจจุบัน ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อจำเป็นต้องรู้ถึงรายละเอียดผลิตภัณฑ์รวมถึงข้อจำกัดของการใช้งาน เราเชื่อว่าการเลือกประเภทของเทอร์มอมิเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ
เทอร์โมมิเตอร์แบบไบเมทัล (Bimetal)
เป็นเครื่องมือวัดใช้หลักการทางกลแบบโดยใช้การโก่งงอของโลหะ 2 ชนิด จึงได้ชื่อว่าไบเมทัล (Bimetal) เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ โลหะทั้งสองจะขยายตัวและเริ่มบิดงอที่แตกต่างกัน นั่นทำให้หน้าปัดที่เป็นเข็มบนเครื่องวัดเคลื่อนที่ตามความโค้งของโลหะทั้งสองและแสดงอุณหภูมิที่วัดได้
นิยมใช้เพื่อวัดอุณหภูมิในเครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยเก่าที่แสดงหน้าปัดแบบเข็มเช่นเทอร์โมสตัท เตาอบ เตาย่าง และเครื่องมือทางอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยเป็นตัวบ่งชี้เกณฑ์ความร้อน
อินฟราเรดเทอร์โมมิเตอร์ (Infrared Thermometer)
เทอร์โมมิเตอร์แบบอินฟราเรดคือเครื่องวัดอุณหภูมิที่ทำงานโดยหลักการของการแผ่รังสีความร้อน โดยทั่วไปออกแบบมาให้มีลักษณะปืนวัดอุณหภูมิ เพื่ออธิบายความสามารถของอุปกรณ์ในการวัดจากระยะไกล
เมื่อทราบปริมาณของพลังงานอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาจากวัตถุและค่าการแผ่รังสีของวัตถุ ทำให้ทราบถึงอุณหภูมิของวัตถุได้
เหมาะสำหรับการวัดอุณหภูมิในระยะไกลที่ค่อนข้างแม่นยำโดยไม่ต้องสัมผัสกับวัตถุที่คุณกำลังวัด มีประโยชน์เมื่อไม่สามารถวัดได้ด้วยเครื่องวัดชนิดอื่นๆ หรือวัตถุอยู่ไกลเกินเอื้อมและวัดอุณหภูมิของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่
เครื่องวัดแบบอินฟราเรดสำหรับการตรวจสอบอุณหภูมิพื้นผิว แต่ไม่เหมาะสำหรับการวัดอุณหภูมิภายในของวัตถุ อ่านค่าได้ในเวลาสั้นๆ เพียงเสี้ยววินาที นิยมใช้ในอุตสาหกรรม อาหาร การผลิต ระบบปรับอากาศ แอสฟัลต์และคอนกรีต ห้องปฏิบัติการ และการใช้งานในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน
แบบโพรบ (Probe thermometer)
เทอร์โมมิเตอร์แบบโพรบเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ทำงานด้วยแบตเตอรี่เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว โดยใช้โพรบเพื่อวัดในเนื้อสัตว์ ไส้กรอก ชีส มะเขือเทศ ฯลฯ เครื่องมือนี้ไม่เพียงได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมอาหารเท่านั้น ในการเกษตร ในโรงเบียร์ และในห้องปฏิบัติการอุตสาหกรรมต่างๆ การใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กที่รวดเร็วเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติ
แม้แต่งานวัด HVAC ก็สามารถทำได้ในพื้นที่ของการทำความร้อน / การปรับอากาศหรือการวัดกระบวนการและท่อระบายอากาศด้วยหัววัดการเจาะที่ยาว สามารถตรวจวัดอากาศ ก๊าซ ของเหลว และสารพลาสติกได้ ในภาคอาหาร (HACCP) เทอร์มอมิเตอร์แบบโพรบใช้สำหรับควบคุมอุณหภูมิแกนของเนื้อสัตว์หรืออาหารอื่นๆ รวมถึงการควบคุมอุณหภูมิน้ำมัน
หลายรุ่นยังมีการเตือนอุณหภูมิ ฟังก์ชัน MIN / MAX และ HOLD และสามารถสลับระหว่างเซลเซียสและฟาเรนไฮต์ได้ เซ็นเซอร์ทั้งหมดสามารถกันน้ำได้และตัวเรือน IP 65 กันฝุ่นและป้องกันน้ำฉีด เวลาตอบสนองเป็นวินาที จอ LCD ขนาดใหญ่ และช่วงการวัดที่กว้างขวาง
เทอร์โมคัปเปิ้ล (Thermocouple)
เซ็นเซอร์อุณหภูมิมีหลายประเภท แต่ละชนิดมีข้อดีและข้อเสียขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์หรือการใช้งานของเซ็นเซอร์
เทอร์โมคัปเปิลเป็นหนึ่งในเซ็นเซอร์อุณหภูมิที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด พบได้ทั่วไปในการใช้งานการวัดและควบคุมในสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ และยังพบได้ในเทอร์โมสแตทและเซ็นเซอร์ตรวจจับเปลวไฟในการใช้งานในที่พักอาศัย
ความนิยมของเทอร์โมคัปเปิลส่วนหนึ่งเกิดจากความเรียบง่ายและราคา ทำงานโดยอ่านสัญญาณไฟฟ้าของเทอร์โมคัปเปิลและแสดงอุณหภูมิ ฟังก์ชันขั้นสูงเช่น การบันทึกข้อมูล การเตือน Max/Min ฯลฯ
เทอร์โมไฮโกรมิเตอร์ (Thermohygrometers)
เทอร์โมไฮโกรมิเตอร์คือเครื่องมือวัดอุณหภูมิและความชื้นในอุตสาหกรรม การค้าและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย เทอร์โมไฮโกรมิเตอร์ใช้ในการกำหนดความชื้นและสามารถวัดอุณหภูมิและความชื้นได้ในเวลาเดียวกัน
นิยมใช้ในงานด้านการวัดความชื้นและอุณหภูมิได้หลากหลายโดยสามารถวัดค่า เครื่องมือนี้มีประโยชน์อย่างมากในการประเมินความเสียหายในคลังสินค้า ซึ่งต้องมีอุณหภูมิที่แน่นอนและมีระดับความชื้นเฉพาะเช่นสำหรับดอกไม้หรืออาหาร ความแตกต่างของอุณหภูมิและ/หรือความชื้นอาจหมายถึงสินค้าที่เก็บไว้ได้รับความเสียหายหรืออาจถูกทำลายได้
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการตรวจสอบสภาพแวดล้อมภายในห้องปลอดเชื้อ ห้องปฏิบัติการ ห้องเก็บของ และห้องคอมพิวเตอร์
ความแม่นยำ
ความแม่นยำคือระดับของความสอดคล้องกับมาตรฐานที่กำหนด ความแม่นยำคือคำจำกัดความของเครื่องมือว่า “แม่นยำ” เพียงใด เมื่อเทียบกับอุณหภูมิที่ทราบ โดยปกติจะมาพร้อมกับการอ้างอิงถึงค่าความคลาดเคลื่อน
ดังนั้นความแม่นยำมักจะระบุเป็นค่าความคลาดเคลื่อนที่วัดได้ เช่น ± 0.5°C หรือเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น ±2%
ความแม่นยำสามารถดูได้จากสเปคของสินค้าและตรวจสอบได้จากใบรับรอง Certificate of Calibration