คู่มือวิธีใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดอย่างปลอดภัยและแม่นยำ

เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดวิธีใช้

เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด (Infrared thermometer) หรือที่เรียกว่าเครื่องวัดอุณหภูมิแบบไม่สัมผัสหรือปืนวัดอุณหภูมิเป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดอุณหภูมิของวัตถุโดยไม่ต้องสัมผัส แต่จะตรวจจับและวัดรังสีอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาจากวัตถุและใช้ข้อมูลนี้เพื่อกำหนดอุณหภูมิ

นิยมใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงการแพทย์ อาหาร และยานยนต์ ซึ่งจำเป็นต้องวัดอุณหภูมิแบบไม่สัมผัส นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมสำหรับใช้ในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวัดอุณหภูมิร่างกายในช่วงที่มีไข้หรือเจ็บป่วย

หากสนใจสินค้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.neonics.co.th/หมวดหมู่สินค้า/เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด

หลักการทำงานเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด

เครื่องวัดชนิดนี้ทำงานโดยการตรวจจับและวัดรังสีอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาจากวัตถุ วัตถุทั้งหมดที่มีอุณหภูมิสูงกว่าศูนย์สัมบูรณ์ 0 เคลวิน (-273.15 °C หรือ -459.67 °F) จะปล่อยรังสีอินฟราเรดออกมา ปริมาณรังสีที่ปล่อยออกมาขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของวัตถุและสภาพการแผ่รังสี

หลักการพื้นฐานเบื้องหลังเทอร์โมมิเตอร์แบบอินฟราเรดคือการใช้เลนส์เพื่อโฟกัสรังสีอินฟราเรดจากวัตถุไปยังอุปกรณ์ตรวจจับ โดยทั่วไปคือเทอร์โมไพล์หรือเซ็นเซอร์ไพโรอิเล็กทริก เครื่องตรวจจับจะแปลงรังสีอินฟราเรดเป็นสัญญาณไฟฟ้า ซึ่งจากนั้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเทอร์โมมิเตอร์จะแปลงเป็นค่าอุณหภูมิที่อ่านได้

สามารถวัดอุณหภูมิของวัตถุได้หลากหลาย รวมถึงของเหลว ก๊าซ และพื้นผิวที่เป็นของแข็ง โดยไม่ต้องสัมผัสวัตถุเหล่านั้น มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการวัดอุณหภูมิของวัตถุที่ยากต่อการเข้าถึงหรือกำลังเคลื่อนที่ เช่น เครื่องจักรหรือชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว

ความแม่นยำของเทอร์โมมิเตอร์แบบอินฟราเรดอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่น ระยะทาง โฟกัส และค่าการแผ่รังสีของวัตถุที่กำลังวัด ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าการอ่านค่าอุณหภูมิถูกต้องและสม่ำเสมอ

หลักการทำงาน

ขั้นตอนวิธีใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด

ต่อไปนี้คำแนะนำทีละขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีใช้เครื่องมือวัดอุณหภูมิชนิดอินฟราเรด: อ่านคู่มือผู้ใช้: ก่อนใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบอินฟราเรด โปรดอ่านคู่มือผู้ใช้อย่างละเอียดเพื่อทำความเข้าใจคุณลักษณะ ข้อมูลจำเพาะ และข้อจำกัด

1.เปิดเครื่องเทอร์โมมิเตอร์: เปิดเครื่องโดยการกดปุ่มทริกเกอร์ (ไกปืน)

2.ปรับตั้งค่า Emissivity (ε): เครื่องวัดรุ่นที่มีคุณภาพจะตั้งค่าสัมประสิทธิ์การแผ่รังสีความร้อนตามชนิดของวัดตถุ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ “รู้จักค่า Emissivity

3.ตรวจสอบ D:S (Distance to Spot Ratio) : ยืนในระยะห่างที่เหมาะสมจากวัตถุที่กำลังวัด ซึ่งโดยทั่วไปจะระบุไว้ในคู่มือผู้ใช้ หลีกเลี่ยงการวัดผ่านแก้ว พลาสติก หรือพื้นผิวโปร่งใสอื่นๆ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ “D:S (Distance to Spot Ratio) อัตราส่วนของระยะทางต่อจุด

4.เล็งเทอร์โมมิเตอร์: เล็งเทอร์โมมิเตอร์อินฟราเรดไปที่วัตถุที่กำลังวัด โดยให้ตั้งฉากกับพื้นผิวของวัตถุ พื้นที่เป้าหมายควรมีขนาดใหญ่และไม่ควรมีสิ่งกีดขวาง

5.ถือให้นิ่งและนิ่ง: ถือเทอร์โมมิเตอร์แบบอินฟราเรดให้นิ่งและนิ่งขณะอ่านค่าอุณหภูมิ การเคลื่อนไหวหรือการสั่นใดๆ อาจส่งผลต่อความแม่นยำในการอ่าน

6.อ่านอุณหภูมิ: กดปุ่มทริกเกอร์หรือปุ่มวัดเพื่อทำการอ่านค่าอุณหภูมิ บางรุ่นอาจมีคุณสมบัติที่ช่วยให้คุณบันทึกหรือเรียกคืนการอ่านค่าอุณหภูมิได้

7.บันทึกอุณหภูมิ: บันทึกการอ่านค่าอุณหภูมิในสมุดบันทึกหรืออุปกรณ์เพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต

8.ปิดเทอร์โมมิเตอร์: หลังจากทำการวัดแล้ว ให้ปิดเทอร์โมมิเตอร์แบบอินฟราเรดเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ เครื่องวัดบางรุ่นจะปิดอัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งาน

การเลือกซื้อ

เมื่อเลือกเทอร์โมมิเตอร์แบบอินฟราเรดที่ดีที่สุด มีปัจจัยหลายประการที่คุณควรพิจารณา สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรมองหามีดังนี้

  • ช่วงการวัด: เลือกเทอร์โมมิเตอร์แบบอินฟราเรดที่มีช่วงที่ครอบคลุมอุณหภูมิที่คุณต้องการวัด รุ่นที่แตกต่างกันมีช่วงการวัดที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกรุ่นที่เหมาะกับความต้องการของคุณจึงเป็นเรื่องสำคัญ
  • ความแม่นยำ: ความแม่นยำของเครื่องมือวัดเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการวัดอุณหภูมิที่แม่นยำ มองหารุ่นที่มีความแม่นยำสูง ให้พิจารณาจาก Specification และใบรับรอง Certificate of Calibration

 

ตัวอย่างเอกสารใบรับรอง Certificate of Calibration

สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line ID
email
Line ID